เบี้ยแก้ตัวนี้เป็นเบี้ยเงินครับ แล้วเจ้าของเก่าไปทำเลี่ยมเงินแบบเดิมทับเข้าไปอีกทีนึง ถ้าเจ้าของเก่าไม่รักหลวงพ่อจริงๆคงไม่ทำแบบนี้ สภาพสวยเดิมๆครับ

เบี้ยแก้หลวงพ่อไพล วัดบางแคกลาง

หลวงพ่อไพล วัดบางแคกลาง ถือเป็นพระเกจิแห่งลุ่มน้ำแม่กลองเพียงรูปเดียวที่สร้างเบี้ยแก้ ซึ่งถือเป็นเบี้ยแก้อันดับหนึ่งของพระลุ่มน้ำแม่กลอง โดยประวัติของท่านนั้นมิได้มีการจดบันทึกไว้แต่อย่างใด มีแต่เรื่องเล่าต่อๆกันมาว่า
หลวงพ่อไพล ท่านเป็นชาวเพชรบุรี เกิดเมื่อราวปี พ.ศ. ๒๔๒๘ ที่บ้านห้วยโรง ตำบลเขาย้อย อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี เมื่ออายุครบบวชได้ทำการอุปสมบทที่วัดห้วยโรง จังหวัดเพชรบุรี โดยมีหลวงพ่อสิน เจ้าอาวาสวัดปรกสุธรรมาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "ธมฺมสโร"
เมื่อหลวงพ่อไพล ท่านอุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดห้วยโรงเป็นจำนวน ๑ พรรษา หลังจากนั้นจึงได้ติดตามพระอุปัชฌาย์มาอยู่ที่วัดปรกสุธรรมาราม เพื่อเล่าเรียนวิชาคาถาอาคมและวิชากรรมฐาน
ต่อมาตำแหน่งวัดบางแคกลางได้ว่างลง ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันนิมนต์ หลวงพ่อไพล มาเป็นเจ้าอาวาสวัดบางแคกลาง ท่านจึงย้ายมาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบางแคกลาง
ในระหว่างที่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อไพลท่านได้เป็นที่พึ่งของชาวบ้านเป็นอันดี เป็นปูชนียบุคคลที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก เป็นพระเถระผู้เปี่ยมด้วยบารมีธรรม จนเป็นที่ทราบมาจนถึงปัจจุบัน
ท่านได้ก่อสร้างปฏิสังขรณ์เสนาอุโบสถหลังที่ ๓ (หลังปัจจุบัน) ขึ้นใหม่ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๒.๘๓ เมตร แต่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ โดยพระอุโบสถมาแล้วเสร็จในสมัยของพระครูสมุทรกิจวิบูลย์ (ชั้น นาถสีโล) เนื่องจากหลวงพ่อไพลมรณะภาพเสียก่อน
หลวงพ่อไพล มรณภาพเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ สิริอายุ ๗๙ ปี ๕๙ พรรษา
วัตถุมงคลของหลวงพ่อไพล
เบี้ยแก้หลวงพ่อไพล
หลวงพ่อไพลท่านสร้างเริ่มสร้างเบี้ยแก้ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๘๙ เป็นต้นมา โดยสร้างตามตำหรับของหลวงพ่อหนึ่ง วัดห้วยโรง เมืองเพชรฯ ผู้เป็นอาจารย์แต่เบี้ยของท่านจะไม่มีการถัก เพื่อไม่เป็นการทำทัดเทียมเสมออาจารย์ เบี้ยแก้ของท่านมีประสบการณ์มากมาย คนที่นับถือท่านต่างทราบดี ทั้งกันคุณไสย์ ไล่เสนียด ใส่หมอนหนุนนอนให้เด็กที่มักนอนสะดุ้งขวัญผวา และพกติดตัวเวลาค้างอ้างแรมในต่างถิ่น
โดยส่วนประกอบการทำชันของหลวงพ่อไพลนั้นประกอบไปด้วย
๑. งาจำกัด
๒. งากำจาย
๓. พรายกระเด็น
๔. ต้นผีพ่าย
๕. ต้นผีหน่าย
๖. รอดฐานพระขี้
๗. เม็งรักข้า
๘. กัลปังหาแดง ดำ ขาว
๙. ชันเพชร
๑๐. ชันโลงใต้ดิน
๑๑. ชันยาเรือน้ำมันยาง
๑๒. ต้นเพชรสังฆาต
๑๓. ขี้ผึ้งเทียนชัย
๑๔. ว่าน108 ฯ
๑๕. เห็ดหลุม
๑๖. ต้นผีหนี
๑๗. ต้นผีหนาด
๑๘. กระเบนท้องน้ำ
๑๙. น้ำปรอท
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุอาถรรณ์ทั้งสิ้น หลวงพ่อไพลท่านจะลงมือทำเองตั้งแต่คัดตัวเบี้ย ที่ได้ขนาดที่เหมาะสม แล้วจึงนำมวลสารทุกอย่างมาโขลกให้ละเอียด ยกเว้น น้ำมันยาง ชันยาเรือ ชันโรงใต้ดิน ขี้ผึ้งเทียนชัย น้ำปรอท ตัวหอย หลังจากนั้นใส่ไว่ในบาตรพระ แล้วนำมากวนเข้าด้วยกัน ตักส่วนผสมใส่ตัวเบี้ย จากนั้นใส่ปรอทลงไปในตัวเบี้ย หลังจากนั้นนำชันต่างๆ มาเคี่ยว หลังจากนั้นก็นำมาปิดที่ก้นเบี้ย โดยหลวงพ่อไพลท่านจะปลุกเสกเดี่ยว เมื่อเข้มขลังดีแล้วจึงแจกจ่ายแก่ศิษยานุศิษย์ มีทั้งเลี่ยมนาค เลี่ยมเงินแปะตั๊ง ศิลป์การเลี่ยมจากวัด และไม่เลี่ยม (หากเลี่ยมสแตนเลสจะเป็นยุคหลังไม่ทันหลวงพ่อ)
โดยหลวงพ่อไพล จะไม่ได้บอกว่าหลวงพ่อใช้คาถาอะไรในการปลุกเสก ถือว่าเป็นเบี้ยแก้อีกสำนักหนึ่งที่น่าใช้ และสร้างตามตำราโบราณจารย์อย่างแท้จริง
Cr..,
https://www.pra-maeklong.com/2020/04/watbangkaeklang.html